พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ผ่านระบบวิดิโอคอนเฟอเรนซ์จากบ้านพัก โดยเป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องการขอความร่วมมือทุกภาคส่วนเวิร์กฟอร์มโฮม  (wfh) ขณะที่คณะรัฐมนตรีบางส่วน ยังมีความจำเป็นต้องใช้หน่วยงานเป็นที่ประชุม เพราะปัจจัยด้านเทคนิคและเอกสารเร่งด่วน

          สำหรับวาระการประชุม กระทรวงแรงงาน เตรียมนำรายละเอียดการเยียวยานายจ้างและลูกจ้าง ในระบบประกันสังคม ตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 เข้าที่ประชุม ครม. และกระทรวงแรงงาน ได้หารือสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ขยายการเยียวยาเพิ่มอีก 3 จังหวัด ตามประกาศราชกิจจานุเบกษา ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ที่พึ่งถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเพิ่มเติม หรือพื้นที่สีแดงเข้ม โดยการเยียวยาในส่วนที่ใช้เงินกู้โควิด-19 จะเสนอการเยียวยานายจ้าง 3,000 บาท/ลูกจ้าง 1 คน ไม่เกิน 200 คน และลูกจ้างตามมาตรา 33 รับเพิ่มเป็น 2,500 บาท/คน

          กระทรวงศึกษาธิการ จะรายงานแนวทางและมาตรการลดภาระผู้ปกครองและนักเรียน ในส่วนของค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าเทอมนั้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งได้วางแผนจัดโครงการแพคเกจที่เหมาะสมไว้แล้ว และจะมีการประกาศให้ผู้ปกครองรับทราบในเร็วๆ นี้

          ขณะเดียวกัน คาดว่าจะหารือ ถึงการปรับพื้นที่สถานศึกษาให้เป็นโรงพยาบาลสนามรองรับประชาชนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่สีแดงเข้ม โดยกระทรวงศึกษาธิการได้สั่งการให้โรงเรียน  สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จำนวน 233 แห่ง และสถานศึกษา  สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) 6 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งหมด 239 แห่ง  เริ่มเตรียมความพร้อม อย่างไรก็ตาม การใช้สถานศึกษาจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามนั้น จะต้องมีการขอความเห็นจากชุมชนรอบสถานศึกษาด้วย เพื่อสร้างความสบายใจให้เกิดขึ้นกับทั้ง 2 ฝ่าย

          นอกจากนี้ จับตา การเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นแคนดิเดต ปลัดกระทรวงมหาดไทย เข้าสู่ที่ประชุม ครม. โดยเป็นวาระจร หลังต้องเลื่อนจากสัปดาห์ที่ผ่านมา
                                                                                                                             เรียบเรียง/ข่าว : ธวัลรัตน์ แดงเจริญ นักประชาสัมพันธ์
                                                                                                                                                ข้อมูล : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์