รัฐบาลเดินหน้ามาตรการบรรเทาผลกระทบฝ่าวิกฤตราคาพลังงาน

          นางสาวเพ็ญนภา เข็มตรง รองผู้อำนวยการสำนักข่าว ส่วนปฏิบัติการและบริหารข้อมูลข่าวสาร กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการศูนย์ข้อมูลข่าวสารเพื่อการประชาสัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่า ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ยืดเยื้อมาเกือบ 3 เดือน ส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 30% จากช่วงก่อนปฏิบัติการทางทหารได้เริ่มต้นในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ราคาพลังงานมีผลโดยตรงต่อค่าครองชีพของประชาชน ทั้งในส่วนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ภาคการคมนาคมขนส่ง ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญของผู้ประกอบการในการขนส่งสินค้า และก๊าซธรรมชาติที่ทำมาผลิตไฟฟ้า ซึ่งเมื่อต้นทุนพลังงานมีราคาสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับค่าน้ำมัน และค่าไฟฟ้าซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในปัจจุบัน จึงเกิดผลกระทบตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ 
รัฐออกมาตรการบรรเทาแก้ไขวิกฤตราคาพลังงาน
รัฐบาลได้มีมาตรการดูแลภาระครองชีพ เพื่อบรรเทาผลกระทบแก่ประชาชนจากทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 และสถานการณ์ราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรป ขณะนี้หลายโครงการได้เริ่มมีผลบังคับแล้วและมีระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่ พ.ค.-ก.ค. อาทิ 
1.    มาตรการพยุงราคาน้ำมันดีเซล แม้ก่อนหน้านี้จะมีการประกาศทยอยปรับขึ้นราคาแบบขั้นบันไดสู่ระดับราคา 35 บาท ซึ่งเป็นราคาที่รัฐอุดหนุนครึ่งหนึ่งของราคาน้ำมันที่แท้จริง ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 40 บาทต่อลิตร
2.    มาตรการส่วนลดค่าน้ำมันในกลุ่มเบนซินแก่ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างหรือโครงการ วินเซฟ (เริ่ม พ.ค.- ก.ค 65)
3.    มาตรการเพิ่มส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 100 บาท/เดือน (เริ่ม 1 เม.ย. 65)
4.    มาตรการลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า Ft) ซึ่งเป็นต้นทุนค่าผลิตไฟฟ้าที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ราคาเชื้อเพลิง อัตราเงินเฟ้อ เป็นต้น โดยปกติจะมีการปรับค่า Ft ทุก 4 เดือน หรือ 3 ครั้งต่อปี เพื่อให้เกิดการสะท้อนต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงจากที่คำนวณไว้ในค่าไฟฐาน 
ครม.เห็นชอบลด ค่า Ft ระยะเวลา 4 เดือน
เพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายประชาชน ทั้งภาคครัวเรือนและผู้ประกอบการรายย่อย ครม.เห็นชอบมาตรการให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า Ft) แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) กลุ่มใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ระยะเวลา 4 เดือน (พ.ค.-ส.ค. 65) สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าจาก กฟน. และกฟภ. จะได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าจากการลดค่าเอฟที 0.2338 บาทต่อหน่วย เป็นการดำเนินตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 65 และ 19 เม.ย. 65
มาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าทำให้ลดภาระค่าไฟฟ้าค่าของชีพแก่ประชาชนประเภทบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก มีเงินเพื่อการบริโภคและอุปโภค ช่วยลดผลกระทบและป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ รวมไปถึงการใช้ชีวิตของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ราคาพลังงานอันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรป ช่วยให้เศรษฐกิจไทยในภาพรวมสามารถขับเคลื่อนในระยะต่อไปได้
ยื้อ..ตรึงน้ำมันดีเซล 32บาท/ลิตรอีกหนึ่งสัปดาห์
ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาพยุงราคาน้ำมันดีเซล และก๊าซ LPG ส่งผลให้สถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน (8 พ.ค.) ติดลบ 66,681 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมันติดลบ 33,258 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 33,423 ล้านบาท 
นับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 65 เป็นต้นมา คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลง (กบน.) มีมติเห็นชอบแนวทางการปรับราคาน้ำมันดีเซล ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 32 บาทต่อลิตรตามมติคณะรัฐมนตรีที่จะทยอยปรับลดการอุดนราคาน้ำมันลงไม่เกินร้อยละ 50 ของราคาน้ำมันที่แท้จริง ซึ่งปัจจุบันราคาน้ำมันที่แท้จริงอยู่ที่ประมาณลิตรละ 40 บาท โดยรัฐอุดหนุนลิตรละ 10 บาท และจะทยอยลดเงินอุดหนุนไม่เกิน 5 บาทต่อลิตร จะทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกมาอยู่ที่ราคา 35 บาท/ลิตร  แต่เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการปรับตัวอย่างรวดเร็วของราคาน้ำมัน รัฐบาลจึงใช้การทยอยปรับขึ้นแบบขั้นบันได ดังนี้
1.    ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 65 ปรับขึ้นครั้งแรก ไม่เกิน 32 บาท/ลิตร 
2.    ปรับขึ้นอีก 1 บาท/ลิตร ทุกสัปดาห์จนครบ 35 บาท/ลิตร ภายในเดือน พ.ค.-มิ.ย. 65 
ดังนั้นในสัปดาห์นี้ จะมีการปรับราคาดีเซลขึ้นเป็น 33 บาท/ลิตร แต่ที่ประชุม กบน. (6 พ.ค.65 )มีมติให้ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้เท่าเดิมที่ 32 บาท/ลิตรต่อไปก่อน และจะพิจารณาราคาอีกครั้งในวันที่  12-13 พ.ค. 65 นี้ว่าจะปรับขึ้นราคาในสัปดาห์หน้าหรือไม่ 
“วินเซฟ” มาตรการเยียวยาส่วนลดค่าน้ำมันในกลุ่มเบนซินแก่ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง
สำหรับการดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำมันเบนซินที่ปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกัน รัฐบาลได้ออกมาตรการเพื่อดูแลผู้มีรายได้น้อยอย่าง ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มดังกล่าวไม่ปรับเพิ่มค่าโดยสารทำให้มาตรการดังกล่าว ยังเกิดประโยชน์กับประชาชนผู้ใช้บริการด้วย 
     “วินเซฟ” คือ โครงการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ เป็นการให้ส่วนลดราคาน้ำมันแก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างที่มีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะจากกรมการขนส่งทางบก จำนวน 106,655 ราย โดยได้รับสิทธิช่วยเหลือค่าน้ำมันผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง"  ใช้สิทธิได้ ณ สถานีบริการน้ำมันที่เข้าร่วมโครงการ ส่วนการใช้งานจะมีความคล้ายกับโครงการคนละครึ่ง ที่จะต้องเติมเงินเข้าไปในบัญชีก่อน ถึงจะสามารถใช้งานได้ โดยขณะนี้มีสถานีบริการน้ำมันสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1,000 แห่ง ซึ่งการได้รับสิทธิช่วยเหลือค่าน้ำมัน ไม่เกิน 50บาท/คน/วันและไม่เกิน 250บาท/คน/เดือน รวม 3 เดือน ตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ค. 65 เพื่อจะได้ไม่ปรับขึ้นค่าโดยสารกระทบประชาชน
นายกเล็งขยายต่ออายุมาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล
อีกหนึ่งตัวแปรของราคาน้ำมันดีเซล คือ ภาษีสรรพสามิตที่ปัจจุบันคณะรัฐมนตรีได้มีมติ ให้ปรับลดการจัดเก็บจากเดิม การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่ลิตรละ 5.99 บาท เหลือ 2.99 บาทต่อลิตร ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 20 พ.ค.65 
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม คณะรัฐมนตรีว่า รัฐบาลมีแนวโน้มการต่ออายุมาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 20 พ.ค. 65 นี้ ซึ่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาอย่างรอบคอบในการขยายเวลาลดภาษีออกไป และจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในสัปดาห์หน้า
แนวทางการสื่อสาร
•    สื่อส่วนกลาง คลี่ให้เห็นภาพรวมประโยชน์ที่ประชาชนได้รับจากมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ โดยชี้ให้เห็นว่าเป็นความพยายามช่วยเหลือท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้นระดับโลก
•    สื่อภูมิภาค สะท้อนให้เห็นผลลัพธ์ของมาตรการในระดับพื้นที่ เช่น ผู้ใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วยเป็นกลุ่มไหน ใครได้ประโยชน์ บ้าน/ร้านค้ารายย่อย ที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้ามากน้อยแค่ไหน ถึงใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วยแล้วจะได้สิทธิ์ดังกล่าว
•    รณรงค์ลดการใช้พลังงาน เช่น อาจนำเสนอการคำนวณค่าไฟฟ้าจากการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิด ให้เห็นว่าชิ้นไหนกินไฟมาก หากลดการใช้ได้ จะลดราคาพลังงานลงได้
การนำเสนอผู้ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน อาจต้องอธิบายทำความเข้าใจว่าที่มาที่ไปของผลกระทบเกิดจากอะไร รัฐบาลได้พยายามช่วยเหลืออย่างไร
                                                                                                                             เรียบเรียง/ข่าว : ธวัลรัตน์ แดงเจริญ นักประชาสัมพันธ์
                                                                                                                                          แหล่งข้อมูล : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar
ginfo
สนง.ป้องกันและปราบปราม
กยศ
e-government
มหาดไทย
พาณิชย์
เกษตร
ทรัพยากรธรรมชาติ
แรงงาน
อุตสาหกรรม
ยุติธรรม
ดิจิทัล