กรมการแพทย์ เตือนภัยจากการสูดดมก๊าซหัวเราะต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน มีผลต่อสมอง ระบบประสาทไขสันหลังและเส้นประสาทส่วนปลาย

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ก๊าซหัวเราะ หรือไนตรัสออกไซด์ (Nitrous Oxide) เป็นก๊าซที่มีการนำมาใช้ในทางการแพทย์มากว่า 150 ปี โดยใช้เป็นยาดมสลบสำหรับการทำหัตถการทางการแพทย์ ปัจจุบันยังคงมีใช้เป็นส่วนหนึ่งของยานำสลบร่วมกับการใช้ยาสลบชนิดอื่นๆ โดยวิสัญญีแพทย์ นอกจากนั้นยังใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มโดยทั่วไปคือ ก๊าซผสมกับครีมเพื่อผลิตเป็นวิปครีมในเครื่องดื่มและขนม จึงทำให้มีบรรจุภัณฑ์อัดก๊าซไนตรัสออกไซด์ขายโดยทั่วไป แต่การใช้ผิดวัตถุประสงค์เพื่อความสนุกสนานในหมู่นักท่องเที่ยวเพื่อหวังผลเรื่องความเคลิ้มสุข อาจจะส่งผลเสียต่อระบบประสาท ระบบไหลเวียนและกล้ามเนื้อหัวใจได้ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว 

ด้านนายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวว่า การสูดดมก๊าซไนตรัสออกไซด์ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลเสียต่อระบบประสาทโดยตรง โดยก๊าซไนตรัสออกไซด์จะไปขัดขวางระบบเมตาบอลิซึมของวิตามินบี 12 ซึ่งมีส่วนในโครงสร้างและการทำงานของระบบประสาท ทำให้ผู้ป่วยมีอาการแสดงทางระบบประสาทคล้ายกับผู้ป่วยที่ขาดวิตามินบี 12 ได้ อาทิ ไม่สามารถยืน หรือเดินทรงตัวได้ เนื่องจากระบบประสาทรับความรู้สึกในการทรงตัวเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นจากเส้นประสาทส่วนปลายที่รับความรู้สึกเอง หรือไขสันหลังส่วนที่ควบคุมการทรงตัว หากเป็นมากขึ้นอาจจะทำให้มีอาการแขนขาอ่อนแรงถึงขั้นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ 

หากเกิดความเสียหายต่อปลอกประสาทในสมอง จะทำให้มีอาการคิดช้า พูดช้า หรือหากเป็นมากอาจจะทำให้มีอาการความจำหรือสมองเสื่อมได้ ซึ่งความผิดปกตินี้จะไม่สามารถรักษาด้วยยาชนิดใดได้ ต้องหยุดการสูดดมก๊าซไนตรัสออกไซด์ ซึ่งผู้ป่วยโดยส่วนใหญ่อาจจะมีอาการดีขึ้น  แต่หากเป็นมากอาจจะไม่สามารถฟื้นฟูให้กลับไปเป็นปกติได้ จึงแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการสูดดมก๊าซไนตรัสออกไซด์โดยตรง

ที่มา  https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG211116184848614


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar