พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี เชิญถุงพระราชทาน เครื่องอุปโภค บริโภค ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสระบุรี

  วันนี้ (8 ตุลาคม 2564)เวลา 09.15น. พระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอกดาว์พงษ์  รัตนสุวรรณ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์เชิญสิ่งของพระราชทาน มอบแก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี 
           โดยองคมนตรี ได้ร่วมประชุมและติดตามสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสระบุรี  โดยมีนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เข้าร่วมประชุมรายงานสถานการณ์ ที่ห้องประชุม หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรี  
           ต่อจากนั้น พลเอกดาว์พงษ์  รัตนสุวรรณ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูประถัมภ์ เชิญถุงพระราชทาน เครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน  2,490 ชุด ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรี  เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และช่วยบรรเทาความเดือนร้อน โดยมีนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี  นายอำเภอ  เข้ารับมอบถุงพระราชทาน
             ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี มอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่  และมีพระราชกระแสรับสั่งให้หน่วยงานต่าง ๆ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนอย่างทันการณ์
              จากนั้นองคมนตรี ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ชุมชนวัดดาวเสด็จ อำเภอเมือง จ.สระบุรี  จำนวน  10  ราย  พร้อมพูดคุยให้กำลังใจ และเชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี  ไปกล่าวให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดเหตุอุทกภัยให้รับทราบ 
           ทั้งนี้พสกนิกรชาวจังหวัดสระบุรี ต่างปลื้มปีติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี อย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงห่วงใยราษฎรผู้ประสบ อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสระบุรี
             จากเหตุการณ์ภัยพิบัติ พายุดีเปรสชั่น "เตี้ยนหมู่" เมื่อวันที่ 25-26 กันยายน  2564เกิดฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ได้รับผลกระทบ ทั้งหมด  11  อำเภอ จาก 13 อำเภอ มี 46 ตำบล  240  หมู่บ้าน 10 ชุมชน ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือนร้อน 7,229 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตร ประกอบด้วย ความเสียหายด้านพืช จำนวน 26,646 ไร่ และด้านประมง จำนวน 4  ไร่ 96 ตารางวา ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ดังกล่าวยังไม่ยุติและคลี่คลาย   ในบางพื้นที่เป็นที่ลุ่มและเส้นทางน้ำหลาก ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่และอยู่ในช่วงการช่วยเหลือเยียวยา  

 


image รูปภาพ

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar
ginfo
สนง.ป้องกันและปราบปราม
กยศ
e-government
มหาดไทย
พาณิชย์
เกษตร
ทรัพยากรธรรมชาติ
แรงงาน
อุตสาหกรรม
ยุติธรรม
ดิจิทัล