นายภควัต พรหมเพ็ญ รองผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการและการบริหารข้อมูลข่าวสาร กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการศูนย์ข้อมูลข่าวสารเพื่อการประชาสัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ(ทรท.) เตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ โดยจะเริ่มในวันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป

       นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยไม่ต้องกักตัวจะต้องเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และเดินทางเข้าประเทศไทยโดยทางอากาศจากประเทศที่กำหนดว่าเป็นประเทศความเสี่ยงต่ำ เมื่อเดินทางเข้าประเทศไทย ทุกคนต้องแสดงตัวว่าปลอดเชื้อโควิด-19 โดยต้องมีหลักฐานผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ซึ่งทำการตรวจก่อนเดินทางออกจากประเทศต้นทางและจะมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง โดยในเบื้องต้นได้กำหนดรายชื่อประเทศความเสี่ยงต่ำ ไว้อย่างน้อย 10 ประเทศ เช่น อังกฤษ สิงคโปร์ เยอรมนี จีน และอเมริกา
      สำหรับพื้นที่ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว มีทั้งหมด 10 จังหวัดนำร่อง คือ กระบี่ พังงา เปิดทั้งจังหวัด ส่วนกรุงเทพมหานคร ชลบุรี เปิดเพียงบางส่วน โดยชลบุรีจะเปิดเฉพาะ อ.บางละมุง อ.สัตหีบ ขณะที่จังหวัดอื่นๆ จะเปิดที่ชะอำ เพชรบุรี และหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนเชียงใหม่ มี 4 อำเภอคือ อ.เมือง อ.ดอยเต่า อ.แม่แตง และ อ.แม่ริม รวมทั้ง จ.ระนอง ที่เกาะพยาม และอาจจะเปิดที่ อ.เชียงคาน จ.เลยด้วย ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมกับกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมแผนรับมือและมาตรการต่าง ๆ
ภาพรวมสถานการณ์โควิดในประเทศไทย
    ในปัจจุบันความครอบคลุมการได้รับวัคซีนของไทย ณ วันที่ 13 ตุลาคม 2564 มีการฉีดวัคซีนรวม 61.9 ล้านโดส โดยแบ่งเป็นผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรก 35.8 ล้านคนหรือร้อยละ 49.8 ของประชากร และผู้ได้รับวัคซีนครบสองเข็ม 24.2 ล้านคน หรือร้อยละ 33.7 ของประชากรซึ่งคาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนครบสองเข็มให้คนไทยได้ราวร้อยละ 50 ของจำนวนประชากรภายในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจากความคืบหน้าด้านวัคซีนดังกล่าว ทำให้ขณะนี้แม้จะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อหลักหมื่นคนต่อวัน แต่แนวโน้มผู้ป่วยอาการหนักและใส่เครื่องช่วยหายใจ รวมถึงผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง 
     ทั้งนี้ ศบค. ยังติดตามสถานการณ์การระบาดในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้อย่างใกล้ชิด ได้แก่  สงขลา ยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส เนื่องจากยังมีแนวโน้มการติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จะมีการพิจารณามาตรการที่เหมาะสมควบคู่กับการเร่งฉีดวัคซีนเพื่อลดความรุนแรงของโรคในพื้นที่ โดยในวันที่ 14 ตุลาคม 2564 จะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เพื่อหารือแนวทางมาตรการโควิด - 19 ที่เหมาะสมและมาตรการเตรียมความพร้อมเปิดประเทศในทุกภาคส่วน
                                                                                                                             เรียบเรียง/ข่าว : ธวัลรัตน์ แดงเจริญ นักประชาสัมพันธ์
                                                                                                                                                 ข้อมูล : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์